วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

งานวิจัย เรื่อง ผลการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี

เรื่อง ผลการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยัน
และความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี
โรงเรียนบางบัว(เพ่งตั้งตรงจิตรวิทยาคาร)
ชื่อผู้วิจัย นางสาวจีรนันท์ อยู่ร่มและคณะ
ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์จิตนา สุขสำราญ
คุณครูไอลดา ฝามงคล
คุณครูลัดดาวัลย์ ทรายมุทร

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยในชั้นเรียนเชิงทดลอง โดยใช้นิทานอีสปที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม สามารถส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความมีขยันและความสามัคคี แก่เด็กปฐมวัย(4 และ 5 ปี) และมุ่งที่จะหารูปแบบที่เหมาะสมในการจัดกิจให้กับเด็กมีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กปฐมวัย ที่อยู่ในระดับต่ำ เพื่อที่จะให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ได้ทราบแนวทางในการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็ก ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของ การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของเด็กปฐมวัย
วัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1.เพื่อศึกษาผลการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี โรงเรียนบางบัว(เพ่งตั้งตรงจิตรวิทยาคาร) กรุงเทพมหานคร 2.เพื่อศึกษาความแตกต่างของการใช้นิทานอิสปที่มีเนื้อหาสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยชาย – หญิง อายุระหว่าง 4 และ 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 และ 2/3 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนบางบัว(เพ่งตั้งตรงจิตรวิทยาคาร) กรุงเพทมหานคร ได้ดำเนินการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้เทคนิคการสุ่มแบบง่าย ( Simple Random Sampling ) จำนวน 2 ห้องเรียน จาก 5 ห้อง และดำเนินการศึกษาเด็กนักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องที่ถูกเลือกเป็นตัวอย่าง มีนักเรียนที่ทำการศึกษา จำนวน 50 คน โดยใช้นิทานเป็นฐานข้อมูล เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน ในวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2551 ระหว่างเวลา 11.30 – 12.00 น. เป็นเวลา 30 นาที สังเกต/ประเมินและใช้แบบทดสอบก่อนและหลังการทดลอง
ผลการวิจัยพบว่า 1.จากการศึกษา พบว่า หลังการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี เด็กมี คุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยัน และความสามัคคีสูงขึ้นในด้านความขยัน เด็กสามารถทำงานได้ด้วยตนเองจนสำเร็จ มีความตั้งใจในการทำงาน กระตือรือร้นในการทำงาน ส่วนในด้านความสามัคคีเด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่ามีความสุข พูดหรือกล่าวชมเพื่อนเมื่อเพื่อนทำดี ซึ่งสอดคล้องกับผลคะแนนที่ออกมา 2.จากการตรวจสอบสมมติฐาน พบว่าผลการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี สามารถส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี ได้เป็นอย่างดี โดยผ่านการเล่านิทานและ สามารถที่จะพัฒนาระดับคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อเสนอแนะในการวิจัย
1. อาจมีการเพิ่มจำนวนครั้งในการเล่านิทานต่อวันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมด้านความขยันและความสามัคคี เด็กจะได้ซึมซับได้อย่างลึกซึ้ง
2. ควรมีการให้เด็กเป็นผู้เล่า เพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมด้านความขยันและความสามัคคีและนอกจานี้ยังเป็นการส่งเสริมการรักการอ่านให้กับเด็กได้อีกทาง
3. ควรมีการติดตามผลระยะยาวหลังการทดลองเพื่อศึกษาผลการใช้นิทานอีสปที่มีต่อการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ด้านความขยันและความสามัคคี สำหรับเด็กอายุ 4 และ 5 ปี

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

งานเกษียร วันที่ 26 กันยายน 2551 ค่ะ

นักศึกษาร่วมงานเกษียรของคุณครูค่ะ

รายงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 2

1.ภารกิจหลัก
1.1 ศึกษาสังเกตสภาพแวดล้อมทั่วไป บรรยากาศในการจัดการเรียนรู้ของห้องเรียน
1.2 ศึกษาธรรมชาติและพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละช่วงวัย
1.3 ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการให้แก่ผู้เรียน
1.4 ศึกษาสังเกตและปฏิบัติการที่มีส่วนร่วมในบทบาทหน้าที่ของคุณครูประจำชั้น
1.5 ศึกษาสังเกตแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
1.6 ศึกษากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้สูงสุด

2.สิ่งที่ได้ทำนอกเหนือจากภารกิจหลัก


2.1 การจัดป้ายนิเทศให้แก่สถานศึกษา
2.2 การจัดกิจกรรมหนูน้อยนักสร้างสรรค์
2.3 จัดทำสื่อการเรียนการสอนแต่ละห้องเรียน
2.4 การร่วมกิจกรรมเวรประจำวัน
2.5 การร่วมกิจกรรมตลาดนัดพุธแรกของเดือน
2.7 การร่วมกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 มิถุนายน 2551
2.8 การการร่วมกิจกรรมการไหว้ครู 19 มิถุนายน 2551
2.9 การอบรมมารยาทไทย
2.10 การร่วมกิจกรรมหล่อเทียนพรรษาและวันอาสาฬหบูชา วันที่ 10 กรกฎาคม 2551
2.11 การร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ วันที่ 11 สิงหาคม 2551
2.12 การร่วมกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์
2.13 การจัดแสดงผลงานของหนูและสรุปโครงการคุณธรรมนำความรู้ นิทานคู่เด็กไทย
วันที่ 24 กันยายน 2551
2.14 การร่วมงานเกษียรคุณครู วันที่ 26 กันยายน 2551
2.15 การช่วยจัดกิจกรรมอำลาอาลัย ผู้อำนวยการวุฒิ เนยเขียว วันที่ 3 ตุลาคม 2551
2.16 จัดทำสรุปการปฏิบัติงาน โครงการหนูน้อยนักสร้างสรรค์และโปรเจคแอบโพส
3.สิ่งที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 2

3.1 ได้ทราบถึงสภาพแวดล้อมทั่วไป บรรยากาศในการจัดการเรียนรู้ของห้องเรียน
3.2 ได้ทราบถึงธรรมชาติและพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละช่วงวัย
3.3 ได้ทราบถึงหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการให้แก่ผู้เรียน
3.4 ได้ทราบถึงการปฏิบัติการที่มีส่วนร่วมในบทบาทหน้าที่ของคุณครูประจำชั้น
3.5 ได้ทราบถึงแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3.6 ได้ทราบถึงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้สูงสุด
4.การนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์



4.1 ด้านสภาพแวดล้อม
สามารถนำวิธีการจัดสภาพแวดล้อมของทางสถานศึกษามาเป็นแนวทางในการจัดสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาหรือห้องเรียนที่จะฝึกปฏิบัติงานในอนาคต

4.2 ด้านสื่อ/อุปกรณ์
สามารถนำมาหระยุกต์ ดัดแปลงในรูปแบบอื่นได้ ซึ่งจะสามารถนำไปจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้สูงสุด

4.3 ด้านบทบาทหน้าที่การเป็นครู
คุณครูประจำชั้นหรือครูผู้สอนสามารถเป็นต้นแบบที่ดีในด้านการจัดการเรียนการสอน ซึ่งจะสามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพ

4.4 ด้านกิจกรรม/โครงการต่างๆ
การจัดกิจกรรม/โครงการต่างๆ ทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงและสามารถ
นำไปพัฒนาในรูปแบบของตนเองได้เป็นอย่างดี
5.การวิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

โปรแกรมการศึกษาปฐมวัย
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2551 ซึ่งสำหรับเด็กปฐมวัยจะใช้การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ 6 กิจกรรมหลัก คือ
1. กิจกรรมเล่นเสรี/เล่นตามมุม
2. กิจกรรมสร้างสรรค์
3. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
4. กิจกรรมเสริมประสบการณ์/กิจกรรมในวงกลม
5. กิจกรรมกลางแจ้ง
6. กิจกรรมเกมการศึกษา
จัดประสบการณ์ผ่านการเล่น เด็กได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงและปฏิบัติด้วยตนเองโดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 เน้นเด็กเป็นสำคัญสนองความต้องการและความสนใจของเด็ก นึกถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล มีการประเมินพัฒนาการของเด็กเป็นรายบุคคล จัดให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก
จากการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทำให้เด็กได้รับการพัฒนาทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมพัฒนาด้านคุณธรรมสำหรับเด็กอนุบาล คือ โครงการธรรมมะน้อย และโครงการคุณธรรมนำความรู้ นิทานคู่เด็กไทย ทำให้เด็กได้พัฒนาเรื่องของคุณธรรม 8 ประการ ไปพร้อมกับด้านการเรียนการสอน ตามปรัชญาที่ว่า “คุณธรรมนำความรู้”

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ต้อนรับเปิดเทอม

วันที่ 3 พฤษจิกายน 2551 จะเป็นวันเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้เตรียมตัวเรียบร้อย กำลังจะปรับปรุงบล๊อกนะคะ อย่าใจร้อน หุหุ